หลังจากที่พลตำรวจตรี เผ่า ศรียานนท์ รองอธิบดีตำรวจฝ่ายปราบปราม ได้ทำการกวาดล้างพวกกบฎ 1 ต.ค. 2491 เรียบร้อยไปแล้ว ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน ในปีเดียวกันนั้นเอง การกวาดล้างพวกกบฎก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง เท่าที่ตำรวจจับกุม บุคคลดังกล่าวนี้ก็คือ นายทิม ภูริพัฒน์ นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ นายเตียง ศิริขันธ์ นายถวิล อุดล นายฟอง สิทธิธรรม
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนบุคคลดังกล่าว แต่แล้วก็ปล่อยเป็นอิสระภาพไป แต่สำหรับนายเตียง ศิริขันธ์ นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ นั้น ถูกนำตัวไปฟ้องศาล
การกบฎครั้งนี้ พวกกบฎมีความประสงค์ที่จะแบ่งแยกดินแดนภาคอิสานออกจากประเทศไทย และแบ่งเป็นรัฐๆ ปกครองกันโดยเป็นอิสระ หรือจะแบ่งแยกเป็นรูปแบบใดไม่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ดี การแบ่งแยกดินแดนถือได้ว่า เป็นการผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ได้บัญญัติไว้ว่า " พระราชอาณาจักรไทย นั้นจะต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียว จะทำการแบ่งแยกมิได้" เพราะถ้าหากใครคิดจะแบ่งแยกดินแดนออกจากกัน บุคคลเหล่านั้นก็ได้ชื่อว่า "กบฎ" เพราะผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ
เป็นการน่าแปลกประหลาดอยู่มาก ที่พวกกบฎแบ่งแยกดินแดนครั้งนี้ ไม่มีสรรพกำลังอันใด ที่จะบังคับให้รัฐบาลออกจากตำแหน่งได้ เพราะไม่มีทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ให้การสนับสนุนแม้แต่คนเดียว มันอาจจะเป็นความคิดลมๆ แล้งๆ หรืออาจเป็นความคิดที่อยากเป็นใหญ่เป็นโต ดังเช่นกรณีที่มีบุคคล ทางดินแดนในภาคใต้คิดแยกดินแดน
อย่างไรก็ตาม กบฎ 1 ต.ค. 2491 กบฎแยกดินแดน ล้วนแต่เป็นลูกสมุนนายปรีดี เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ด้วยทั้ง 2 ครั้ง จึงทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายนายปรีดี พนมยงค์ ที่จะยึดอำนาจคืนจากจอมพล ป. พิบูลสงคราม แต่ฝ่ายตำรวจก็ได้ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด และตระหนักเป็นที่แน่ชัดว่า เงาหรือควันแห่งการกบฎนั้น มีท่าทีบ่งบอกอย่างชัดแจ้งอยู่ว่าคงไม่นานนัก การปฎิวัติ นองเลือดอาจเกิดขึ้นในทันทีทันใดอย่างแน่นอน ดังนั้น จอมพล ป. จึงได้กล่าวคำปราศัยทางวิทยุกระจายเสียง เพื่อให้พวกที่คิดคบกันก่อการกบฎ ทราบว่า แผนการณ์แห่งการปฎิวัตินั้น ทางรัฐบาลทราบดีอยู่แล้ว ออกจากนั้นยังบอกประชาชนให้ทราบไว้อีกด้วยว่า การนองเลือด เป็นเรื่องที่หมดหนทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ ในกรณีเช่นนี้ ทางรัฐบาลจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำทุกอย่างเพื่อความสงบของประเทศ และรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ อันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ.
อ้างอิง http://www.baanjomyut.com/library/6_treason/02.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น